'ยาลดความอ้วน' สารอันตรายถึงชีวิต

ไม่มีประโยชน์ แถมให้โทษ
  
          พิษ ภัย'ยาลดความอ้วน' นั้นยังมีให้เห็นต่อเนื่อง ในสังคมไทยเช่น โศกนาฏกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นกับน.ส.โชติมา จินตนาผลอายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนวัดราชาธิวาส ซึ่งสั่งซื้อยาลดความอ้วนPAODY Slim Capsule กับ L-Carnitine Plus มา รับประทานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ความจริงจะเรียกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ว่า 'ยา' คงไม่ได้

          เพราะควรเรียกว่า 'สารลดความอ้วนซึ่งเป็นอันตรายต่อ สุขภาพ' จะตรงประเด็นกว่า น่าวิตกที่ภายหลังจากข่าวการเสียชีวิตของน.ส.โชติมา เผยแพร่ไปทั่วประเทศ แต่สารลดความอ้วนทั้งสองชนิด ก็ยังขายโจ่งแจ้งในอินเตอร์เน็ตนับหมื่นเว็บไซต์

          สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลไว้ว่า ตามปกติแพทย์จะสั่งจ่ายยาลดความอ้วนในกรณีผู้ป่วยเป็น'โรคอ้วน'พร้อมกับติดตามผลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากยาลดความอ้วนอาจจะส่งผล กระทบต่อร่างกายถึงขั้นเสียชีวิต

          วิธีการลดความอ้วนไม่ใช่แค่พึ่งยาอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน

          นอกจากนั้น สารประกอบในยาลดความอ้วนยังเพิ่มความเสี่ยงส่งผลให้ ผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือด เบาหวาน ความดัน อาการทรุดหนักลงได้

          ที่สำคัญ เด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี หรือสตรีมีครรภ์ ห้ามใช้ยาดังกล่าวโดยเด็ดขาด

          โดยทั่วไปยาลดน้ำหนักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ แยกตามตำแหน่งการออกฤทธิ์ของยา คือ

          1. ยากลุ่มออกฤทธิ์ที่สมอง ส่งผลต่อศูนย์ควบคุมการรับประทานอาหาร โดยไปกดไว้จนไม่อยากอาหาร

          2. ยาออกฤทธิ์ต่อส่วนนอกสมอง ทำให้ระบบลำไส้ยับยั้งการดูดซึมของสารอาหารอาการผิดปกติที่พบบ่อย หลังจากทานสารลดความอ้วนเข้าไปอาทิ

          กระวนกระวาย ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ ท้องผูก ไปจนถึงตื่นเต้นเกินเหตุ ม่านตาขยาย ประสาทหลอน

          เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเกิดอาการ'เสพติด' ในบางกรณีที่อาการร้ายแรงจะเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน ระบบการไหลเวียนของเลือดล้มเหลว ชัก โคม่า และเสียชีวิตในที่สุด

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น