'บัวบก-ตะไคร้'ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่

เตรียมพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์การแพทย์

นัก ชีวเคมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่วิจัยพบ'บัวบก-ตะไคร้'มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ พร้อม คิดค้นวิธีการสกัดบัวบก/ตะไคร้ให้อยู่ในรูปสารสกัดมาตรฐาน ปูทางสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาบัวบก/ตะไคร้ และแคปซูลอาหารเสริมต้านมะเร็ง

          ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีข้อค้นพบทางการแพทย์ว่า บัวบกและตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ใหญ่ได้ แต่ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนถึงคุณค่าทางการแพทย์และปริมาณที่เหมาะสมในการ บริโภคจึงสนใจขอทุนสนับสนุนจากโครงการสมองไหลกลับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)เพื่อศึกษาและพัฒนา ผลิตภัณฑ์จากบัวบก/ตะไคร้ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

          ในงานวิจัยดังกล่าวได้ทดสอบการออกฤทธิ์ ทางชีวภาพของสารสกัดจากบัวบกและตะไคร้ต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูขาว พบว่า สารสกัดจากบัวบกและตะไคร้มีฤทธิ์ป้องกันและยับยั้งการเกิดโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดี โดยกลุ่มหนูขาวที่ถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หลังจากการได้รับสารก่อ มะเร็งปนเปื้อนในอาหารประเภทปิ้ง-ย่าง  ตรวจพบจำนวน เซลล์ก่อมะเร็งขนาดใหญ่และมีเซลล์มะเร็งที่มีลักษณะเป็นเซลล์ร้ายและลุกลาม

          ขณะที่กลุ่มหนูขาวซึ่งได้รับสารสกัดจากใบบัวบกหรือตะไคร้ไม่ว่าก่อน หรือหลังถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่พบจำนวนเซลล์ก่อมะเร็งลดลงถึง 60% โดยเซลล์มีขนาดเล็กกว่าและยังไม่เกิดการลุกลาม

          จากการวิเคราะห์องค์ประกอบพบว่า ในสารสกัดบัวบกมีสารสำคัญอย่างน้อยหนึ่งตัว คือ 'กรดอะเซีย ติก' ที่อาจเป็นสารออกฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการ ทำลายตัวเองส่วนสารสกัดจากตะไคร้นั้นพบสารสำคัญ คือ 'ซิทรอล' ที่มีฤทธิ์หยุดวงจรการแบ่งตัวของ เซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกสำหรับคุณสมบัติข้อนี้ของตะไคร้

          ศ.ดร.อุษณีย์ กล่าวว่า ทีมวิจัยไม่เพียงพบหลักฐานสนับสนุนทางการแพทย์ถึงฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากสารสกัดบัวบกและตะไคร้ แต่ยังสามารถสกัดสารที่นำมาทดสอบให้อยู่ในรูปสารสกัดมาตรฐาน ได้อีกด้วย กล่าวคือ เราใช้เทคนิค'HPLC fingerprint' กำหนดและควบคุมสารที่สกัดจาก บัวบกหรือตะไคร้ให้มีปริมาณความเข้มข้นของสารสำคัญที่แน่นอนสม่ำเสมอ ปลอดภัย และได้มาตรฐานทุกครั้ง จึงเหมาะต่อการนำไปใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์

          "นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถกำหนดปริมาณในการบริโภคสารสกัดจากบัวบกหรือตะไคร้สำหรับ ป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิผล ทีมวิจัยยังได้เจาะเลือดหนูขาวมาทำการศึกษา วัดอัตราและขอบเขตการออกฤทธิ์ของสารออกฤทธิ์ภายหลังการป้อนสารสกัดมาตรฐาน จากบัวบกหรือตะไคร้ โดยพบว่า หนูขาวสามารถดูดซึมสารสำคัญได้ในเวลา 10 นาทีและเพิ่มปริมาณสูงสุดที่เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นสารสกัดจะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งหายไปจากซีรั่มภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้คำนวณสำหรับวางแผนวิจัยเชิงคลินิกในอาสาสมัคร สำหรับหาปริมาณการบริโภคที่เหมาะสมในมนุษย์ต่อไป" ศ.ดร.อุษณีย์ กล่าว

          ล่าสุด งานวิจัยได้ทดลองนำสารสกัดจากบัวบกหรือตะไคร้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบในรูป ของ ชาบัวบก ชาตะไคร้ แคปซูลบัวบก และแคปซูลตะไคร้ บ้างแล้ว ผลทดสอบเบื้องต้นพบว่ามีความปลอดภัยดีหลังจากนี้จะอยู่ในขั้นตอนของการเผย แพร่เทคโนโลยีสู่ภาคเอกชน เพื่อนำไปต่อยอดผลิตเป็นอาหารเสริมสุขภาพทางเลือกใหม่ ที่จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่อไปในอนาคต

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น